ของเก่า มือสอง
ไปประมูลของเก่ากันไหม
เดี๋ยวนี้การสะสมของเก่าในเมืองไทยไม่ใช่งานอดิเรกของคนรุ่นเก๋าเท่านั้น คนวัยทำงานก็หันมาสนใจงานศิลป์ราคาแพงเหมือนกัน ชาวผู้ดีอังกฤษเองเพิ่งจะหันมาสนใจของเก่ากันจริงๆ จังๆ เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ต้องยกความดีให้สถานีโทรทัศน์บีบีซี ที่ผลิตรายการเกี่ยวกับของเก่ามาให้ผู้ชมได้ดูกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนอังกฤษเริ่มตื่นตัวหันมาสนใจของเก่ากันมากขึ้น ทุกวันนี้บีบีซีฉายรายการประเภทนี้ทุกวัน มีทั้ง Cash in the Attic, Flock It! และ Bargain Hunt แถมวันเสาร์ยังมี Antiques Roadshow อีก ซึ่งเป็นรายการที่ผู้เชี่ยว ชาญในวงการมานั่งประเมินราคาของเก่าให้ชาวบ้านโดยไม่คิดค่าบริการ เมืองไหนที่บีบีซีไปเยือน เมืองนั้นชาวบ้านจะแห่ขนของมาให้ปรมาจารย์ทั้งหลายประเมินราคากันทั้งวัน สำหรับเราๆ ท่านๆ ที่อยู่ห่างไกลบีบีซีแต่อยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับของเก่า ก็สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ของเขาได้ที่ www.bbc.co.uk/antiques
บริษัทจัดงานประมูลของเก่าที่อังกฤษนอกจากเจ้าประจำอย่างซอทบี้ส์กับคริสตี้ส์แล้ว ยังมีรายย่อยอีกจำนวนมากตั้งอยู่ประปรายทั่วประเทศ ตั้งแต่ลอนดอน ไปจนถึงน็อททิงแฮม บริสตอล และเอดินเบอระ หลายร้านมีอายุพอๆ กับของที่นำมาขาย อย่างแอนเดอร์สัน แอนด์ การ์แลนด์ (Anderson & Garland) ของนิวคาสเซิล ที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1840 แอนเดอร์สันฯ จัดงานประมูลของเก่าทุกๆ 3 เดือน ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีของเข้าร่วมประมูลเกือบสองพันรายการ ก่อนการประมูลทางบริษัทจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าชมของ เป็นเวลา 3 วัน ใครจะเข้าไปชมก็ได้ จะหยิบจะจับอย่างไรก็ไม่ว่ากัน คนที่สนใจของเก่าน่าจะหาโอกาสไป ชมของก่อนงานประมูลเสียหน่อย ถึงแม้จะไม่เข้าประมูล กับเขาก็ตาม เพราะจะสามารถเรียนรู้อะไรๆ ได้เยอะ
ปกติเวลาไปพิพิธภัณฑ์เราได้แต่มองวัตถุโบราณ เท่านั้น แต่ถ้าได้สัมผัสของจริงแล้วเราจะเข้าใจถึงรายละเอียด เนื้อกระเบื้อง เทคนิคการผลิต รวมไปถึงเครื่องหมายบ่งบอกยุคสมัยและโรงงานที่ผลิตงานชิ้นนั้นได้ดีขึ้น ริเวอร์ซิตี้แถวท่าเรือสี่พระยา จัดงานประมูล ของเก่าทุกวันเสาร์แรกของเดือน ใครสนใจอาจจะหาเวลาไปดูเขาประมูลกันก็เป็นการพักผ่อนในวันหยุดที่น่าสนใจไปอีกแบบ
งานประมูลของเก่าที่อังกฤษมักกินเวลา 2-3 วัน แต่ละวันจะประมูลของต่างประเภทกันไป มีทั้งแผนที่ ภาพพิมพ์ ภาพเขียนสีน้ำมัน เครื่องแก้ว เครื่องเงิน นาฬิกา รวมไปถึงเครื่องกระเบื้องทั้งของอังกฤษเองและของจีนกับญี่ปุ่น ซึ่งยุโรปนิยมนำเข้าตั้งแต่ 3-400 ปีมาแล้ว เครื่องกระเบื้องที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสม ของอังกฤษขณะนี้มีหลากหลาย ตั้งแต่ประเภทอายุประมาณเกือบ 200 ปีที่ราคาสูง เช่น รอยัล ดอลตัน (Royal Doulton) เวดจ์วูด (Wedgewood) รอยัล วอร์ซเตอร์ (Royal Worcester) และมินตัน (Minton) ไปจน ถึงงานที่ผลิตเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 ราคาตั้งแต่ 5-60 ไปจนถึงหลายร้อยปอนด์ โดยส่วนตัวแล้วฉันชอบเครื่องกระเบื้องของ รอยัล วอร์ซเตอร์ เพราะสีไข่ไก่ของ กระเบื้องและลายดอกไม้อันอ่อนช้อย ทำให้ดูน่าทะนุถนอม แต่ราคาที่แพงตั้งแต่ 100 กว่าถึง 4-500 ปอนด์ขึ้นไป ก็ทำให้ได้แต่ดูเท่านั้น
เครื่องกระเบื้องของจีนและญี่ปุ่นตอนนี้ก็กำลังเป็นที่นิยมไม่น้อยไปกว่าของอังกฤษเอง แม้จะเคยถูกเมิน ไปอยู่นาน หนังสือพิมพ์ Antiques Trade Gazette ลงข่าวว่าเดี๋ยวนี้ในงานประมูลทั้งหลายของอังกฤษ มีชาวจีนแผ่นดินใหญ่เข้าร่วมประมูลด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีใหม่ที่รวยมาจากนโยบายเปิดประเทศตามระบบทุนนิยมของรัฐบาลจีน ในการประมูล ที่คริสตี้ส์ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าชาวจีนแผ่นดินใหญ่ห้ำหั่นราคากับชาวฮ่องกงและไต้หวันเพื่อประมูลแจกันจีนพื้นเหลืองลายสิงโต ราคาสุดท้ายถีบตัวจากราคาประเมินที่ 800-1,200 ปอนด์ไปเกือบ 10 เท่าตัว ไปหยุดอยู่ที่ 9,800 ปอนด์ แม้แต่ในตลาดเล็กๆ อย่างนิวคาสเซิล เครื่องกระเบื้องแนวเอเชีย ก็ได้ราคาดีพอควร
แจกันจีนคู่สีแดงปลายศตวรรษที่ 18 ที่ทางแอน เดอร์สันฯ ประเมินราคาไว้ที่ 4-600 ปอนด์ ถูกขายออก ไปในราคา 700 ปอนด์ (49,000 บาท) ส่วนงานสไตล์อิมาริ (งานกระเบื้องที่ประกอบไปด้วยสีน้ำเงินโคบอลท์ แดงเหล็ก และทองเป็นส่วนใหญ่) ซึ่งญี่ปุ่นผลิตส่งออกไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1659 ก็กำลังมาแรงในตลาดของเก่าอังกฤษ แต่ราคาของงานอิมารินี้ไม่ค่อยสูงเท่าไร ในงานประมูลของแอนเดอร์สันฯ แจกันยุคศตวรรษที่ 19 ขายได้แค่ 95 ปอนด์เท่านั้น (6,650 บาท) คงเป็นเพราะนิวคาสเซิลเป็นตลาดเล็ก ของที่ส่งเข้าประกวดเลยอาจมีคุณภาพไม่สูงเท่าในตลาดลอนดอน หรือไม่ก็เผอิญวันนั้นมีคนเข้าร่วมประมูล น้อย ราคาเลยไม่สูงเท่าที่ควรจะเป็น
ถ้าจะว่ากันถึงเจ้าแม่แห่งวงการของเก่าในอังกฤษแล้วคงจะหนีไม่พ้น จูดิธ มิลเลอร์ ซึ่งเล่นของเก่ามาตั้งแต่เป็นนักศึกษาที่เอดินเบอระ ช่วงปี 1960s จากที่ซื้อขายของเก่าอย่างเดียว จูดิธกับสามีได้ผันตัวเองมาเป็นนักเขียนถ่ายทอดความรู้ให้กับนักสะสมของเก่า หนังสือเล่มแรกที่ทั้งสองเขียนคือ Miller's Antiques Price Guide ซึ่งรวบรวมราคาซื้อขายล่าสุดของของเก่า ทุกประเภทในตลาดวัตถุโบราณในแต่ละปี ตอนนี้บริษัทมิลเลอร์ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับของสะสมต่างๆออกมาประมาณ 90 กว่าเล่มแล้ว เชื่อว่านักเล่นของเก่า แนวยุโรปในไทยอาจคุ้นกับชื่อมิลเลอร์บ้างไม่มากก็น้อย
หลักในการประมูลของเก่าที่จูดิธแนะนำไว้คือ เริ่มจากการไปสำรวจของที่ถูกส่งเข้าประมูลในวันที่เขาเปิดให้ชมเสียก่อน เพื่อตรวจดูว่าชิ้นที่เรากำลังเล็งอยู่นั้นมีรอยชำรุดหรือเปล่า ลวดลายเป็นอย่างไร ควรจะซื้อแค็ตตาล็อกที่ทางบริษัทประมูลพิมพ์ขายไว้เป็นคู่มือประกอบการชมสินค้า และควรจะหาข้อมูลเกี่ยวกับของ ชิ้นนั้นให้มากที่สุดก่อนวันประมูล อาจสอบถามจากเจ้าหน้าที่ของบริษัท หรือสืบเสาะข้อมูลด้วยตัวเอง ตาม หนังสือหรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ จากนั้นให้กลับมานั่งคำนวณงบของตัวเองที่บ้าน อย่าลืมบวกภาษีและค่าคอมมิชชั่นที่ต้องจ่ายให้บริษัทประมูลเข้าไปในงบด้วย แล้วค่อยตั้งงบสูงสุดที่เรายินดีจะจ่ายสำหรับงานชิ้นนั้น และในวันประมูลก็ไม่ควรติดลมแข่งประมูลกับเขาจนเกินงบที่ตนตั้งไว้ ไม่อย่างนั้นอาจเดือดร้อนเมื่อถึงเวลาต้องชำระเงินได้ แต่จุดสำคัญที่สุดก็คือ ต้องรู้ว่าตัวเองกำลังมองหาอะไรอยู่ คือต้องมีความรู้เรื่องของเก่าติดตัว พอสมควร ซึ่งมาจากการสั่งสมประสบการณ์และความสนใจส่วนตัวเป็นหลัก แต่สิ่งเหล่านี้เรียนรู้กันได้
ของเก่ามีคุณค่าควรแก่การสะสม ไม่ใช่เพียงเพราะคุณภาพของชิ้นงานที่คนสมัยก่อนประดิดประดอยขึ้นมาซึ่งหาไม่ได้อีกแล้วในสมัยนี้ แต่ยังมีคุณค่าแห่งเวลารวมอยู่ด้วยซึ่งไม่มีอะไรมาทดแทนได้ แต่ถ้าใครยังไม่มีทุนพอที่จะสะสมของเก่า (อย่างฉันเป็นต้น) ก็อาจจะไปเดินดูวัตถุโบราณตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ไปพลางๆ ก่อน เป็นการประดับความรู้และชื่นชมงานสมัยเก่าโดยไม่ต้องเสียเงินมากอย่างการเป็นเจ้าของของเก่าเอง
ทะเบียนการขายทอดตลาดและค้าของเก่า
แนวทางการดำเนินงานทะเบียนการขายทอดตลาดและค้าของเก่า
กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
1. พระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ. 2474
2. ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ. 2533
คำจำกัดความ
1. การขายทอดตลาด หมายถึง การขายโดยเปิดเผยแก่มหาชน ด้วยวิธีให้โอกาสแก่ผู้ประมูลราคา ผู้ใดให้ราคาสูง ก็มีสิทธิซื้อทรัพสินนั้นได้
2. ของเก่า หมายถึง ทรัพย์ที่เสนอขาย แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายโดยประการอื่นอย่างทรัพย์ที่ใช้แล้ว ทั้งนี้รวมถึง ของโบราณด้วย
3. การค้าของเก่า หมายถึง
ก. ประเภทโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ข. ประเภทเพชร พลอย ทอง นาก เงิน หรืออัญมณี
ค. ประเภทรถยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ได้แก่ รถยนต์สาธารณะ รถยนต์บริการและรถยนต์ส่วนบุคคล
ง. ประเภทอื่น ๆ เช่น รถจักรยานยนต์ ไม้เรือนเก่า ขวด เศษเหล็ก กระดาษ เป็นต้น
4. เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต หมายถึง
ก. ผู้บังคับการกองทะเบียน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเขตกรุงเทพมหานคร
ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด ในเขตจังหวัด
5. นายตรวจ หมายถึง เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองตั้งแต่ปลัดอำเภอ หรือเจ้าพนักงานฝ่ายตำรวจ ซึ่งมียศตั้งแต่ชั้น ร้อยตำรวจตรีขึ้นไป
ขั้นตอนการดำเนินการ
1. การขออนุญาต
ก. ผู้ขออนุญาตยื่นคำร้อง ณ ที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอที่จะดำเนินการ
ข. อำเภอตรวจสอบเอกสาร หากครบถ้วน ถูกต้อง ส่งให้จังหวัด
ค. จังหวัดตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติของผู้ขอ หากครบถ้วน ถูกต้อง ให้ออกใบอนุญาตและส่งกลับอำเภอ
ง. อำเภอแจ้งผู้ขออนุญาต เพื่อรับใบอนุญาตและชำระค่าธรรมเนียม
จ. อำเภอสำเนาใบเสร็จรับเงินส่งจังหวัด เพื่อบันทึกรายละเอียดลงในต้นขั้วใบอนุญาตเก็บไว้เป็นหลักฐาน
2. การขอต่ออายุใบอนุญาต
ก. ผู้ได้รับอนุญาตจะต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนที่ใบอนุญาตจะหมดอายุ 90 วัน ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือกิ่งอำเภอเดิม
ข. อำเภอดำเนินการเช่นเดียวกับการขออนุญาต
หลักฐานประกอบการขออนุญาต
1 บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว พร้อมใบประกอบธุรกิจและสำเนา
2 ทะเบียนบ้านและสำเนา
3 รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 3 รูป
4 ทะเบียนพาณิชย์ หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลและสำเนา
5 หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ทำการค้า หรือหลักฐานการเป็นเจ้าของหรือสัญญาเช่า
6 ใบอนุญาตจากกรมศิลปากรและสำเนา กรณีประกอบอาชีพขายทอดตลาดหรือค้าของเก่าประเภทโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุ
ตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
คุณสมบัติของผู้ขอใบอนุญาต
1. มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
2. มีความรู้หนังสือไทยพออ่านออกเขียนได้
3. เป็นผู้ที่ไม่เคยต้องโทษจำคุกความผิดฐานปลอมแปลงเงินตรา การปลอมบัตรและการปลอมใบสำคัญ สัญญาในการยืม
เงินตราและในการให้ดอกเบี้ย และความผิดฐานประทุษร้ายแก่ทรัพย์
การปฏิบัติตนของผู้ขายทอดตลาดและค้าของเก่า
1 ผู้ขายทอดตลาดปฏิบัติดังนี้
ก. สำแดงคำแจ้งความแห่งการขายทุกคราวไว้ ณ สถานที่ขายให้เห็นได้แจ้ง
ข. อยู่ ณ ที่ขายในเวลาขายทอดตลาด และพร้อมที่จะแสดงใบอนุญาตต่อนายตรวจเมื่อเรียกตรวจ
ค. มีสมุดบัญชีสำหรับการขายทุกคราว และจดรายการข้อสำคัญทั้งปวงแห่งการขายนั้น ๆ ลงไว้
ง. แจ้งวันและสถานที่ขายให้นายตรวจทราบล่วงหน้าอย่างน้อยสามวันเต็ม
จ. สำแดงนามของตนและคำว่า "ผู้ทอดตลาด" ไว้เหนือประตชั้นนอกแห่งสำนักงาน
2 ผู้ค้าของเก่าปฏิบัติดังนี้
ก. แสดงนามของตนและคำว่า "ผู้ค้าของเก่า" ไว้ ณ ที่ทำการค้าของตนพร้อมทั้งใบอนุญาตในที่อันเห็นได้แจ้ง
ข. มีสมุดบัญชีสำหรับการค้าของตนและจดรายการข้อสำคัญทั้งปวงแห่งการค้าลงไว้ทุกราย สมุดบัญชีตามที่
กล่าวนี้ ต้องทำตามแบบและนำมาให้เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตลงนาม และประทับตราก่อนทุกเล่ม
ค. แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือนายตรวจ เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าทรัพย์ที่มีผู้มาเสนอหรือโอนให้ตนนั้นเป็น
ทรัพย์ที่ได้มาโดยทางทุจริต
ง. ทำเลขลำดับเป็นเครื่องหมายปิดไว้ที่ของให้ตรงกับเลขลำดับในสมุดบัญชี เพื่อสะดวกในการสำรวจ
การพิมพ์ลายนิ้วมือ
ให้อำเภอขอความร่วมมือสถานีตำรวจท้องที่เป็นผู้พิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ขอใบอนุญาต เพื่อส่งไปตรวจสอบ คุณสมบัติตาม
มาตรา 6(3) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ. 2474 ที่กอง ทะเบียนประวัติอาชญากร
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ไม่ต้องรอผลการตรวจสอบ)
หน้าที่ของนายตรวจ
1. ตรวจตราผู้ได้รับอนุญาตขายทอดตลาดในท้องที่ตนว่าได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วน ตามหน้าที่ของผู้ขาย ทอดตลาดอันต้อง
กระทำตามพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ. 2474 มาตรา 7 ข้อ ก. ข. ค. และ ง. หรือไม่
ส่วนการขายทอดตลาดเร่ ซึ่งไม่ได้ขายประจำในสำนักงานตามที่จดทะเบียนไว้ เมื่อผู้ขาย ทอดตลาดได้แจ้งวันและสถานที่
ขายให้นายตรวจทราบล่วงหน้าตามความใน ข้อ ฆ. แห่งมาตราเดียวกันนี้ ก็ให้ นายตรวจซึ่งประจำอยู่ในท้องที่ที่มีการขาย
ทอดตลาดนั้น ไปตรวจดูว่าผู้ขายทอดตลาดได้ปฏิบัติถูกต้องตามความ ในข้อ ก. ข. ค. ดังกล่าวแล้วนี้หรือไม่เช่นเดียวกัน
ถ้าปรากฏว่ายังมีสิ่งบกพร่องอยู่ก็ให้ผู้ขายทอดตลาดนั้น ดำเนินการ เสียให้ครบถ้วนบริบูรณ์เสียก่อน จึงให้ทำการขายทอดตลาดได้
2. ตรวจตราผู้ค้าของเก่าว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ ตามพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาด และค้าของเก่า
พ.ศ. 2474 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2495 มาตรา 8 ข้อ ก. ข. ค. และ ฆ. ครบถ้วนหรือไม่ ถ้าบกพร่องก็ให้ผู้ค้าของเก่า
ดำเนินการเสียให้ครบถ้วนบริบูรณ์ก่อน จึงให้ทำการค้าของเก่าได้
3. ตรวจบัญชีและทรัพย์สินสิ่งของการขายทอดตลาดและค้าของเก่า กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าทรัพย์สินสิ่งของ ได้มาโดยการ
ทุจริตให้รีบรายงานตามลำดับชั้น จนถึงเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตพิจารณาสั่งการ
4. ตรวจตราผู้ขายทอดตลาดและค้าของเก่าให้ปฏิบัติตามกฎหมาย หากปรากฏว่าปฏิบัติไม่ถูกต้องและเข้า ลักษณะความผิดตาม
มาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ. 2474 ให้ นายตรวจบันทึกความผิดส่งสถานี
ตำรวจท้องที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แล้วรายงานให้เจ้าพนักงานผู้ออก ใบอนุญาตทราบ ซึ่งกรมการปกครองได้กำหนด
แบบบันทึกผลการตรวจให้ถือเป็นแนวทางปฏิบัติแล้ว
5. การย้ายที่ทำการหรือร้านขายทอดตลาดและค้าของเก่าจากที่ระบุไว้ในใบอนุญาตตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อ 6 แห่งกฎ
กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 2) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ. 2474 ลงวันที่
3 กันยายน 2484 ว่าให้ผู้รับอนุญาต แจ้งนายตรวจทราบโดยมิชักช้า ดังนั้น เมื่อนายตรวจ ได้รับทราบแจ้ง การย้ายจากผู้ทำ
การขายทอดตลาดหรือค้าของเก่ารายใดแล้ว นายตรวจจะต้องตรวจอาคารสถานที่ตั้ง ตลอดจนสถานที่เก็บทรัพย์สินว่าเหมาะสม
หรือไม่ พร้อมกับทำแผนที่สังเขปแสดงสถานที่ตั้ง แล้วรายงานเสนอความเห็น ต่อเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตสั่งการ หากได้
รับอนุญาตให้แก้ไขรายการในใบอนุญาตให้ถูกต้องตามความเป็นจริง
อัตราค่าธรรมเนียม
1. การขายทอดตลาด ปีละ 15,000 บาท
2. การค้าของเก่า
ก. ประเภทโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุตามกฏหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ปีละ 12,500 บาท
ข. ประเภทเพชร พลอย ทอง นาค เงิน หรืออัญมณี ปีละ 10,000บาท
ค. ประเภทรถยนต์ตามกฏหมายว่าด้วยรถยนต์ ปีละ 7,500 บาท
ง. ประเภทอื่น ๆ ปีละ 5,000 บาท
ผู้ค้าของเก่ารายเดียวหลายประเภท ให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในประเภทที่สูงกว่าประเภทเดียว
ความผิดเกี่ยวกับการขายทอดตลาดและค้าของเก่า
1. ผู้ใดประกอบอาชีพขายทอดตลาดหรือค้าของเก่าโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือประกอบอาชีพดังกล่าว ภายหลังที่ได้มีคำสั่งเพิกถอน
ใบอนุญาต ตามมาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกิน ห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นการกระทำ
ความผิดเกี่ยวกับการขายทอดตลาด หรือค้าของเก่าประเภทโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุ ตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณ
วัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ผู้รับใบอนุญาตผู้ใด ทำการขายทอดตลาดหรือค้าของเก่าโดยใบอนุญาตขาดอายุ หรือทำการขาย ทอดตลาดหรือค้าของเก่าโดย
ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือฝ่าฝืนกฎกระทรวง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท
3. ผู้รับใบอนุญาตประกอบอาชีพขายทอดตลาดหรือค้าของเก่า ไม่แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือนายตรวจ ทันทีเมื่อมีเหตุอันควรสงสัย
ว่า ทรัพย์ที่มีผู้มาเสนอหรือโอนให้ตนนั้นเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยทุจริต ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสามปี หรือปรับตั้งแต่
หนึ่งหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท หากเป็นการกระทำเกี่ยวกับทรัพย์เป็นโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน
โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี หรือปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึง
หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท


ประมูลของเก่า
รับประมูลของเก่า รับซื้อขายสินค้ามือสองทั่วไทย ให้ราคาดี จ่ายเงินสด บริการรวดเร็วทันใจ โดยทีมงานมืออาชีพประสบการณ์สูง ให้คำแนะนำด้านการรับประมูลของเก่า รับซื้อ เหมา รับประมูล ประมูลของเก่า ประมูลงานรื้อถอน ร้านเกมส์ สำนักงาน บริษัท รับประมูลเครื่องจักรเก่า รับประมูลโครงสร้างเหล็ก โรงแรม โรงงาน ห้าง ร้าน ห้างร้านขนาดใหญ่ รวมถึงดูแล ประเมินราคาที่เที่ยงธรรม รับประกันงานทุกพื้นที่ ทั่วจังหวัด ทั่วประเทศ
รู้จักเรา STD Serve รับประมูลของเก่า
- ทีมงานมีประสบการณ์ตรง ด้านการรับประมูลของเก่ามากกว่า 20 ปี
- เดินทางวัดหน้างานสำรวจเบื้องต้นฟรีทั่วจังหวัดเพื่อให้ลูกค้าได้รับ งานที่ตรงความต้องการก่อนตัดสินใจ
- รับประมูลของเก่า ตึก บ้าน อาคาร บ้านเรือน ทุกชนิด ทุกขนาด เล็ก-ใหญ่ ทั่วประเทศ
- เที่ยงธรรม รับประกันคุณภาพ พร้อมการบริการหลังการขาย
- บริการคุณภาพด้วย STD Serve บริษัทรับประมูลของเก่า
พร้อมรับงานทุกขนาด งานบ้านทั่วไป งานโครงการ งานรับเหมา และอื่นๆ สนใจการประมูลของเก่า อื่นๆ ต้องที่ STD Serve บริษัทรับประมูลของเก่า เท่านั้น
บริษัทรับประมูลของเก่า พื้นที่